คำคมพายุ
"ถ้าคุณสามารถก้าวผ่านพายุที่มันพัดกระหน่ำชีวิตคุณมาได้ คุณจะกลับออกมาเป็นคนละคน จำไว้ว่าพายุมันไม่ได้มาเพื่อทำลายคุณ แต่มันมาเพื่อสร้างคุณ"
คำคมพายุภาษาอังกฤษ
"When you come out of the storm, you won't be the same person who walked in. That's what this storm's all about."
-Haruki Murakami
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกท้อแท้กับชีวิตเรามักจะมองหาคำคม คติที่มันช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เรา และคำคมนี้คืออีกหนึ่งคำคมที่ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับปัญหาที่มันเข้ามาเยือนชีวิตเรา
เรายังจำได้ดีในวันที่ชีวิตเราต้องเจอกับพายุที่มันพัดกระหน่ำเข้ามาในชีวิตเรา สองลูกใหญ่ๆพร้อมกันนั่นคือความล้มเหลวทางภาวะการเงิน และความล้มเหลวในชีวิตรัก ตอนนั้นเรารู้สึกว่าชีวิตเรามันถึงทางตันที่มองไม่เห็นทางออกใดๆ
เราปล่อยให้ตัวเองจมปลักอยู่กับความทุกข์เป็นเวลาหลายเดือน เรานอนร้องไห้ทุกคืน เราไม่อยากให้ถึงตอนเช้าเพราะว่าเราไม่มีแรงที่จะลุกออกไปเผชิญกับโลกภายนอกที่มันแสนจะโหดร้าย
จนกระทั่งวันหนึ่ง เราขับรถออกจากบ้านไปทำงาน ตอนนั้นเรายังใช้ชีวิตอยู่ในกทม เราจำได้ว่าวันนั้นรถติดหนักมาก ระหว่างที่รถติดนั้นเราก็นั่งเหม่อลอยฟังเพลงเศร้าตอกย้ำตัวเอง ขณะนั้นมีรถเมล์คันหนึ่งมาจอดอยู่ข้างๆรถเรา พอเรามองไปสภาพที่เราเห็นคือ รถเมล์คันนั้นคนแน่นมาก มีหลายคนที่ต้องยืนโหนราวเบียดเสียดกันในรถที่ไม่มีแอร์ เราคิดว่าถ้าเราต้องไปอยู่ในสภาพนั้นเราคงจะแย่ เราโชคดีจังที่เรามีรถส่วนตัวติดแอร์เย็นฉ่ำ
พอรถเริ่มเคลื่อนเราขับไปติดไฟแดงมีเด็กหญิงคนหนึ่งน่าจะอายุประมาณ9-10ขวบมาเคาะกระจกรถเราเพื่อถามขายพวงมาลัย เรารู้สึกสงสารเด็กน้อยคนนั้นมาก ที่เธออายุแค่นี้เองแต่ต้องมาขายพวงมาลัย เสี่ยงรถชนเสี่ยงกับการที่จะต้องสูดดมควันรถ
ในวันนั้นมันเหมือนมีอะไรมาดลใจให้เราคิดได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราคิดได้ว่าในโลกนี้ไม่ใช่มีแค่เราที่ชีวิตมีปัญหา ยังมีคนอื่นในโลกนี้ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต เรายังโชคดีกว่าคนอื่นอีกหลายคน เรายังมีบ้านให้อยู่ มีรถให้ขับ มีงานดีๆให้ทำ ในขณะที่ยังมีอีกหลายๆชีวิตที่ต้องอาศัยอยู่ในสลัม บ้างก็อาศัยอยู่ใต้สะพาน บ้างก็ขอทานเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ
พอตาเราเริ่มมองเห็นสัจธรรม มุมมองของเราก็เริ่มเปลี่ยน เราตั้งหลักด้วยการเข้าไปเจรจากับธนาคารเพื่อขอประนอมหนี้บัตรเครดิต เรามีเงินไปจ่ายหนี้บัตรเพราะว่าเราเปลี่ยนงานใหม่ที่ได้เงินมากกว่าเดิม มันเป็นงานที่มีความยาก และท้าทายมากขึ้น แต่ก็ได้ค่าตอบแทนมากขึ้น เราเลือกที่จะลองฮึดสู้เพราะว่าเราไม่มีทางเลือก (Do or Die)
ในที่สุดเราก็สามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินของเราได้ ส่วนปัญหาด้านความรักเราเลือกที่จะลงเอยด้วยการเลิกรา เพราะว่าแฟนเรานอกใจเรามาหลายครั้งและเราก็มาถึงจุดที่เราทนไม่ได้อีกต่อไป และเรารู้ว่าเรามีค่ามากพอที่จะต้องมาปล่อยให้ตัวเองเจ็บแบบๆนี้ไปเรื่อยๆ
ทุกวันนี้พอเรามองย้อนกลับไปในอดีตเรารู้สึกขอบคุณพายุที่มัพัดกระหน่ำเข้ามาในชีวิตเรา เพราะมันทำให้เราได้รู้ว่าเราไม่มีวันที่จะรู้ว่าตัวเราเข้มแข็งมากแค่ไหน จนกระทั่งความเข้มแข็งเป็นทางเลือกเดียวที่เรามี เรารู้สึกขอบคุณพายุที่มันพัดกระหน่ำเข้ามาในชีวิตเราเพราะว่าพายุมันไม่ได้มาเพื่อทำลายเราแต่มันมาเพื่อสร้างเราให้แกร่งยิ่งกว่าเดิม