คำคมพ่อแม่ภาษาอังกฤษ
Be sure to spend time with your parents while you can, because one day when you look up from your busy life, they won’t be there anymore.
-Unknown
Be sure to spend time with your parents while you can, because one day when you look up from your busy life, they won’t be there anymore.
-Unknown
คำคมพ่อแม่
พยายามใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ในช่วงที่เรายังมีโอกาส
อย่าปล่อยให้ถึงเวลาที่กว่าเราจะคิดได้ก็คือในเวลา
ที่เราไม่มีพวกเขาแล้ว
พยายามใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ในช่วงที่เรายังมีโอกาส
อย่าปล่อยให้ถึงเวลาที่กว่าเราจะคิดได้ก็คือในเวลา
ที่เราไม่มีพวกเขาแล้ว
ถ้าคุณรักพ่อแม่ของคุณลองอ่านนิทานสอนใจเรื่องนี้ดูนะ
ต้นไม้แห่งรัก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีต้นมะม่วงอยู่ต้นหนึ่งกับเด็กผู้ชาย เด็กคนนี้ชอบมาเล่นที่ต้นมะม่วงนี้ทุกวัน ทั้งปีนป่ายขึ้นไปบนยอดของต้นมะม่วง
กินมะม่วง บางทีก็นอนหลับอยู่ใต้ต้นมะม่วง
เพราะว่าเด็กคนนี้ชอบต้นมะม่วงและต้นมะม่วงก็ชอบเล่นกับเด็กน้อย
จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนเด็กน้อยเริ่มเติบโตเป็นหนุ่ม เขาก็ไม่มาเล่นกับต้นมะม่วงอีกเลย
และในวันหนึ่งหนุ่มน้อยคนนั้นได้กลับมาที่ต้นมะม่วง เขาดูเศร้า
ต้นมะม่วงพูดกับเขาว่า ”มาๆเล่นกับเรา”
“ไม่ฉันไม่เล่นอีกต่อไปแล้ว” เขาตอบ “ฉันต้องการของเล่นฉันต้องการเงินไปซื้อของเล่น”
“เสียใจด้วยนะพ่อหนุ่มเราไม่มีเงิน
แต่ว่าถ้าอยากได้เงินก็เก็บเอาลูกมะม่วงของเราไปขายก็ได้ เจ้าจะได้มีเงินไปซื้อของเล่นไง
“ ต้นมะม่วงบอก หนุ่มน้อยตื่นเต้นมาก
เขารีบเก็บมะม่วงแล้วก็เดินจากไปอย่างมีความสุข
เขาไม่เคยหวนกลับมาอีกเลยตั้งแต่วันนั้น ปล่อยให้ต้นมะม่วงเฝ้ารออย่างเดียวดาย
จนมาวันหนึ่งถึงวันที่หนุ่มน้อยได้เติบโตเป็นชายหนุ่ม เขาได้กลับมาหาต้นมะม่วง
ต้นมะม่วงดีใจมากที่เห็นเขากลับมาหา ” เจ้ากลับมาหาเราแล้ว มาๆเล่นกัน “ ต้นมะม่วงบอก “ฉันไม่มีเวลาจะเล่นกับเธอแล้ว
ฉันต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว พวกราต้องการบ้านสักหลัง เธอช่วยฉันได้ไหม? " เขาถาม “เสียใจด้วยนะพ่อหนุ่มเราไม่มีบ้านให้เจ้าหรอกนะ
แต่ว่าเจ้าตัดเอากิ่งก้านของเราไปสร้างบ้านก็ได้ “ ชายหนุ่มลงมือตัดกิ่งมะม่วงจนหมดต้น
แล้วก็จากไป เขาทิ้งให้ต้นมะม่วงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกแล้ว
ในวันหนึ่งในช่วงหน้าร้อน ชายคนนั้นกลับมาหาต้นมะม่วง
ต้นมะม่วงดีใจที่สุด “เย้ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาหาเราแล้ว มาๆเล่นกันนะ “ เขาตอบกลับว่า “ฉันเริ่มแก่แล้วตอนนี้ และฉันก็รู้สึกไม่สบายใจสักเท่าไหร่ ฉันอยากล่องเรือออกไปไกลๆ
เธอหาเรือให้ฉันหน่อยได้ไหม?” ต้นมะม่วงตอบว่า”
ถ้าอย่างนั้นเจ้าใช้ลำต้นของเราสร้างเรือก็ได้นะ เจ้าจะได้ล่องเรือไปไกลๆ ถ้ามันจะช่วยทำให้เจ้ารู้สึกดี
“ ชายคนนั้นลงมือตัดท่อนซุงจากต้นมะม่วงเพื่อสร้างเรือ
แล้วเขาก็จากไปนานอีกเช่นเคย
ในที่สุดชายคนนั้นก็กลับมาหาต้นมะม่วง หลังจากที่เขาหายไปหลายปีมาก ต้นมะม่วงพูดกับเขาว่า
“เสียใจนะพ่อหนุ่มตอนนี้เราไม่มีอะไรหลงเหลือให้เจ้าแล้ว
ไม่มีลูกมะม่วงให้เจ้า”
“ฉันไม่ต้องการมะม่วงเพราะฉันไม่มีฟันที่จะเคี้ยว” เขาตอบ
“และเราก็ไม่มีกิ่งก้านให้เจ้าได้ปีนเล่นอีกแล้ว”
“ฉันแก่เกินไปที่จะปีนป่ายต้นไม้เล่นแล้ว “ เขาตอบ
“ตอนนี้เราไม่มีอะไรให้เจ้าแล้วนะพ่อหนุ่ม
ตอนนี้เราเหลือแค่รากแก่ๆที่เหี่ยวเฉา” ต้นมะม่วงพูดอย่างเศร้าๆ
“ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วตอนนี้
ฉันต้องการที่ที่ฉันจะได้พักผ่อนอย่างสงบ” เขาตอบ
ต้นมะม่วงปลอบเขาว่า” อึมจริงๆแล้วรากแก่ๆของเรา ก็พอจะช่วยให้เจ้าพักผ่อนได้นะ
เจ้าก็เอนกายของเจ้ามาที่รากของเราก็ได้ เจ้าไม่ต้องปีนป่าย ถ้าเจ้ารู้สึกว่าเหนื่อยกับชีวิต
เจ้าก็มานั่งพักผ่อนบนรากเรา เราจะได้คุยกันเงียบๆนะ”
ชายหนุ่มเอนกายพิงรากเหี่ยวๆของต้นมะม่วง พวกเขาพุดคุยกันอย่างถูกคอ ถึงแม้ว่ารากของต้นมะม่วงตอนนี้จะเหี่ยวเฉามากแต่ใจของต้นมะม่วงรู้สึกกระชุ่มกระชวยเหมือนเกิดใหม่ เราดีใจนะที่เจ้ากลับมาหาเราพ่อหนุ่ม ต้นมะม่วงกล่าวอย่างปลื้มปิติ
นิทานเรื่องนี้ เปรียบเทียบต้นมะม่วงเป็นตัวแทนของพ่อแม่ของเรา
เมื่อเรายังเด็กเราก็ชอบที่จะอยู่กับพ่อแม่ แต่พอเราเริ่มโตเราก็เริ่มที่จะทำตัวออกห่างจากพวกเขา
และจะกลับมาหาพวกเขาก็ต่อเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น พ่อแม่เสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูกได้
ดังนั้นจงอย่าลืมที่จะดูแลพ่อแม่ยามที่พวกเขาแก่ชรา
ให้ความรักความเอาใจใส่ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายจนเกินไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น