เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต ฉันเสียเวลาหลายปีไปกับการพยายามที่จะปรับปรุงตัวเอง
แทนที่จะอาเวลาไปชื่นชมในสิ่งดีๆที่ฉันมีเช่นฉันควรที่จะรู้สึกขอบคุณที่ฉันยังมีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
และฉันก็ยังมีสุขภาพที่ดี ฉันเสียเวลาไปหลายปีกับความคิดที่ว่าตัวฉันแย่
ตัวฉันยังไม่ดีพอ
ฉันมักจะคิดว่าฉันก็เป็นคนที่หน้าตาสวยใช้ได้ แต่ไม่ใช่สวยมาก ค่อนข้างจะฉลาด แต่ไม่ถึงกับฉลาดมาก
พูดง่ายๆก็คือฉันมองตัวเองเหมือนคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร
ฉันเติบโตมากับความกลัวตัวเองจะเรียนได้เกรดแย่ๆในโรงเรียน
เพราะว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอายและมันจะทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอ
ในระบบโรงเรียนที่ฉันได้ร่ำเรียนมา
ฉันมักจะเคยชินกับการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่เสมอ
ทุกวันในโรงเรียนฉันรู้สึกว่าการแข่งขันมันไม่มีวันที่จะสิ้นสุด และฉันก็จะต้องไขว่คว้าที่จะเป็นที่หนึ่งของห้องให้ได้
มันหนักมากนะกับสถานการณ์แบบนี้ ฉันแทบจะไม่มีเวลาว่างพอที่จะไปเที่ยวเล่น
เพราะว่าเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการทำการบ้าน
ฉันเสียเวลาหลายปีไปกับการเล่าเรียนทั้งในระดับมัธยมรวมทั้งระดับมหาลัย
ฉันมีหน้าที่การงานที่ดี ได้ทำงานกับบริษัทที่ใหญ่โตมีชื่อเสียงระดับแนวหน้า
ฉันได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก ฉันหมดเงิน หมดพลังงาน หมดเวลามากมายไปกับการเรียน
และการพัฒนาตัวเองเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
.
ฉันได้เรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลก คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ วรรณคดี ดนตรี รวมทั้งภาษาต่างประเทศ ทั้งๆที่จริงๆแล้วมีอีกหนึ่งวิชาที่ฉันคิดว่ามันจำเป็นแต่ว่าก็ไม่มีโรงเรียนทีไหนสอน สิ่งนั้นก็คือการสอนให้รู้จักคุณค่าของตัวฉันเอง
สิ่งที่ฉันไม่เคยได้ตระหนักถึงในช่วงก่อนหน้านี้
และตอนนี้ฉันได้ตระหนักถึงมันแล้วว่า ถ้าเพียงแค่ฉันได้รู้ถึงคุณค่ของตัวฉันเอง :
ฉันจะไม่มัวแต่ไปคิดถึงข้อพกพร่อง จุดอ่อน ข้อด้อยต่างๆที่ฉันมี โดยที่ลืมคิดถึงข้อดี จุดแข็งและพรสวรรค์อื่นๆที่ฉันมี
ฉันจะหยุดการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความเพรียบพร้อมสมบูรณ์ ฉันจะไม่โทษตัวเองในสิ่งที่ฉันได้ทำผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ฉันควรที่จะรู้ว่าความเพรียบพร้อมสมบูรณ์ไร้ที่ติ มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
และมันก็ไม่มีจริงในโลกนี้
ฉันจะได้เรียนรู้การประสบความสำเร็จที่ได้มาจากหยาดเหงื่อของเราแทนที่มันจะมาจากการที่เราจะไปแสวงหาความสำเร็จจากโชคชะตา
หรือการหวังพึ่งคนที่จะหยิบยื่นโอกาสในหน้าที่การงานให้เรา
ฉันจะไม่ยอมลดคุณค่าของตัวเองลง เพื่อที่จะได้มาซึ่งหน้าที่การงาน
ฉันจะกล้าที่จะเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
เพราะว่าฉันคิดว่ามันสมน้ำสมเนื้อกันกับความสามารถและหยาดเหงื่อที่ฉันทุ่มเทมันลงไป
ฉันจะไม่มีทางที่จะลงเอยด้วยการได้รับค่าจ้างน้อยกว่าที่ฉันสมควรจะได้รับ
ฉันจะเลิกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และเข้าใจว่าทุกคนล้วนต่างมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง
ฉันควรที่จะเรียนรู้ถึงการที่จะชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น
แทนที่จะมานั่งกังวล กลัวว่าคนอื่นจะได้ดีกว่า ทั้งเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน และความรัก
ฉันควรที่จะเรียนรู้ว่าชีวิตไม่ใช่การแข่งขันชิงดีชิงเด่นเพราะว่าจริงๆแล้ว
ความสำเร็จมันมีให้กับทุกคน มันมีอย่างพอเพียง
และไม่มีคำว่าจะหมดเพราะว่าเราทุกคนเกิดมาต่างก็มีความสามารถเฉพาะด้านต่างกัน
ไม่มีใครดีไม่มีใครเด่นไปกว่าใคร
ฉันควรที่จะยึดอกน้อมรับการยกย่องชมเชยจากคนอื่นด้วยความภาคภูมิใจในตัวฉันเอง
แทนที่จะปฏิเสธและมองไม่เห็นคุณค่าของตัวฉันเอง
.
ฉันจะไม่พยายามที่จะทำให้ทุกคนพอใจ ฉันจะกล้าปฏิเสธที่จะไม่ทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากจะทำ
ฉันจะไม่กลัวว่าใครจะไม่ชอบฉันหรือมองว่าฉันเป็นคนแบบไหน ฉันจะไม่รู้สึกผิดถ้าฉันจะบอกปฏิเสธที่จะสุงสิงกับคนที่ฉันไม่รู้สึกสะดวกใจที่จะสุงสิงด้วย
เพราะว่าฉันจะต้องใช้เวลาอันมีค่าของฉันกับสิ่งที่ฉันอยากจะทำ
ฉันจะไม่คาดหวังให้ใครมาสร้างความสุข มาเติมเต็มในสิ่งที่ฉันขาด
มาเติมเต็มความรัก มาให้ความใส่ใจ
ฉันจะไม่คาดหวังให้ผู้ชายคนไหนมาทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันมีค่า เป็นที่ต้องการ
และเป็นคนที่เขาจะสามารถรัก
เพราะว่าฉันรู้ว่าความสุขของฉันฉันต้องสร้างมันด้วยตัวฉันเองไม่ใช่หาจากคนอื่น แต่ถ้ามันจะได้มาจากคนอื่นฉันก็จะคิดว่ามันเป็นเหมือนกับโบนัสมากกว่า
แต่ถึงอย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันได้เผชิญ
มันเป็นบทเรียนอันมีค่าให้ฉันได้เรียนรู้
ฉันเชื่อว่าโลกอัจริยะใบนี้มันมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย
และฉันเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุและผลของมันเสมอ
ฉันไม่ได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะตำหนิใครๆ ฉันไม่ได้ตำหนิสังคม
ไม่ได้ตำหนิพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เพราะว่าทุกฝ่ายก็ต่างล้วนมีบทบาทและหน้าที่และความจำเป็นแตกต่างกันไป สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉันไม่ได้เป็นตัวกำหนดอนาตตของฉัน
ตัวฉันเองจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตและอนาคตของตัวฉันเอง สิ่งที่จะกำหนดอนาคตและชะตาชีวิตฉันมันก็มาจากวิธีคิดและวิธีที่ฉันปฏิบัติ
มันไม่มีคำว่าสายเกินไปที่ฉันจะรับรู้ถึงพลังที่ฉันมี
พลังความเชื่อในตัวเอง เชื่อว่าตัวฉันเองมีค่าพอที่จะคู่ควรกับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต
: สุขภาพที่ดี ความรัก และอื่นๆอีกมากมายที่ตัวฉันสมควรจะได้รับ
และเมื่อฉันรู้คุณค่าตัวฉันเอง คนอื่นก็จะรับรู้ถึงคุณค่าของฉันเช่นกัน
คำคมภาษาอังกฤษเรู้คุณค่าตัวเอง
"When you know your worth, no one can make you feel worthless."
คำคมรู้คุณค่าตัวเอง
ไม่มีใครที่ไหนจะมาทำให้เรารู้สึกว่าไร้ค่า ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเราดีพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น