วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เรื่องราวที่ให้ข้อคิดสอนใจเกี่ยวกับแม่



เรื่องที่คุณจะต้องอ่านถ้าคุณรักแม่ 

หลังจากที่เราได้ใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันมาได้ 21ปี ภรรยาของผมเธอต้องการให้ผมพาผู้หญิงคนอื่นไปทานอาหารเย็นและพาเธอไปดูหนังด้วย เธอพูดกับผมว่า ที่รักฉันรักคุณนะคะ แต่ฉันก็รู้ว่ายังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เขารักคุณและต้องการที่จะใช้เวลาอยู่กับคุณ


ผู้หญิงคนที่ภรรยาผมต้องการให้ผมไปพบ ที่แท้ก็คือแม่ของผมนั่นเอง ผู้ซึ่งครองความเป็นหม้ายมากว่า 19ปี แต่เนื่องจากภาระหน้าที่การงานที่รัดตัวรวมทั้งลูกๆทั้งสามคน ทำให้โอกาสที่ผมจะไปพบเธอก็สามารถทำได้แค่เป็นครั้งคราวเท่านั้นเอง


คืนนั้นผมได้โทรไปหาแม่ของผม เพื่อที่จะชวนเธอไปทานอาหารเย็นและดูหนัง เธอถามผมว่า มีอะไรหรือเปล่า ลูกสบายดีใช่ไหม?”

แม่ของผมจะเป็นคนที่มักจะคิดว่าหากมีโทรศัพท์เข้ามาหรือมีใครมาเชื้อเชิญแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้าในยามวิกาล ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ 

ผมตอบเธอไปว่า มันคงจะดีไม่น้อยถ้าผมได้มีโอกาสที่จะใช้เวลาบางช่วงอยู่กับแม่
เธอคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า แม่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับโอกาสนั้น



วันนั้นเป็นวันศุกร์ หลังจากเลิกงานผมก็ขับรถไปรับเธอที่บ้าน ซึ่งผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย พอไปถึงที่บ้านเธอ ผมสังเกตุได้ว่าเธอเองก็รู้สึกประหม่าเช่นกัน ที่จะออกไปข้างนอกกับผม

 เธอรอผมที่ประตู สวมเสื้อโคท เธอไปดัดผมมาด้วย และเธอก็ยังใส่ชุดที่เธอเคยใส่ตอนฉลองวันครบรอบแต่งงานครั้งสุดท้าย เธอยิ้มพราวหน้าตาของเธอแปล่งประกายเหมือนนางฟ้าเหมือนเทพธิดาองค์หนึ่ง 

เธอพูดกับผมว่า แม่บอกเพื่อนๆของแม่ว่าแม่กำลังจะออกไปทานข้าวนอกบ้านกับลูกชาย เพื่อนๆทุกคนรู้สึกประทับใจที่ได้ยินเช่นนั้น พอเธอข้าไปนั่งในรถ เธอก็ยังพูดอีกว่า พวกเขาจะตั้งหน้าตั้งตารอฟังว่า การนัดเจอของเราทั้งสองจะเป็นเช้นไร


เราไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ร้านที่หรูหราแต่มันก็ดูดีและอบอุ่น แม่ของผมคล้องแขนผมราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงคนที่สำคัญที่สุด 

หลังจากที่พวกเราได้นั่งลง ผมเป็นคนอ่านเมนูอาหาร เนื่องจากสายตาเธอไม่ค่อยดีเธออ่านได้แค่ตัวหนังสือตัวใหญ่เท่านั้น 

ช่วงเวลาตั้งแต่ครึ่งหลังไปจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายทุกครั้งที่ผมเหลือบตาไปดูแม่ของผม เธอจะเอาแต่จ้องมองหน้าผม พร้อมรอยยิ้มแห่งความปลาบปลื้มปนเศร้านิดๆบนริมฝีปากของเธอ 

เธอพูดกับผมว่าเมื่อก่อนตอนลูกยังเล็กๆ แม่เคยอ่านเมนูอาหารให้ลูก และผมก็ตอบกลับเธอไปว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่แม่จะได้พักบ้างแล้ว 

ตอนนี้ปล่อยให้ผมได้ทำหน้าที่นั้นบ้าง ช่วงที่เรารับประทานอาหารเย็นเราก็พูดคุยกันอย่างถูกคอ มันไม่ได้มีอะไรที่พิเศษเพียงแค่เราพูดคุยแลกเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของเราให้กันและกันฟัง 

พวกเราพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินจนไม่ทันไปดูหนัง เมื่อเราไปถึงบ้านของเธอ เธอพูดว่า แม่อยากที่จะเจอลูกอีกนะ แต่ครั้งนี้แม่ขอเป็นคนเชิญนะ ถ้าลูกว่าง
ผมตอบตกลง

พอผมกลับถึงบ้าน ภรรยาผมถาม เป็นอย่างไรบ้าง การไปรับประทานอาหารเย็น?” เยี่ยมมาก มากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีกนะ ผมตอบ


หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่ผมตาย ด้วยโรคหัวใจวาย มันเกิดขึ้นแบบกระทันหัน ซึ่งผมไม่ได้มีโอกาสที่จะทำอะไรให้เธอได้ 

หลังจากนั้นสักพักผมได้รับซองจดหมายพร้อมกับใบเสร็จจากร้านอาหารร้านเดิมที่เราเคยไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ในนั้นมีข้อความเขียนว่า แม่จ่ายค่าอาหารล่วงหน้า ซึ่งแม่ไม่แน่ใจว่าแม่จะมีโอกาสได้ไปไหม 

แต่ไม่เป็นไรนะ แม่จ่ายสำหรับสองที่ ทีหนึ่งคือลูก และอีกที่สำหรับภรรยาของลูก ลูกคงจะไม่รู้หรอกนะว่าคืนนั้นมันมีความหมายกับแม่เพียงไหน แม่รักลูกนะ ลูกชายของแม่

ณ ช่วงเวลานั้น ผมสามารถเข้าใจได้ถึงความสำคัญของเวลาที่จะได้พูด ถึงคำว่า รัก และการให้เวลากับคนที่เรารักในขณะที่เรายังมีโอกาส ในชีวิตนี้มันไม่มีอะไรที่จะสำคัญไปมากกว่าครอบครัวของคุณ 

ห้เวลาแก่พวกเขา ในขณะที่ยังพอมีโอกาส อย่ามัวแต่เอาผัดผ่อนและประวิงเวลาเพราะคุณจะไม่สามารถกลับไปแก้ตัวได้ถ้าหากว่าช่วงเวลานั้นมันมาถึง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

คำคม คติ แคปชั่นโดนใจ ข้อคิดดีๆในการใชัชีวิตอยู่ให้มีความสุขและมีความหมาย

  คำคมชีวิตโดนๆ จงใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกๆวัน  ฝึกสำนึกรู้คุณค่าถึงสิ่งเล็กน้อยที่เรามี อย่าเครียดกับสิ่งที่เราควบคุมมันไม่ได้ คำคมชีวิตภา...